ในอดีตมักมีการตั้งข้อสันนิษฐานมากมายเกี่ยวกับเรื่องของพีระมิด เพราะจากสิ่งที่ได้พบเห็นเชื่อได้ว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ผ่านมาหลายยุคหลายสมัยก็ยังคงไม่มีใครสามารถหาคำตอบได้ว่าแท้จริงแล้วมันถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร ถึงขนาดบางคนเชื่อว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ต่างดาวด้วยซ้ำ เพราะในยุคสมัยนั้นมันคงแทบจะเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีเทคโนโลยีตัวใดที่สามารถทำผลงานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ออกมาได้ ทว่าในปัจจุบันนี้ก็มีการศึกษาจนรู้แล้วว่าพีระมิดถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร
จากการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญได้ระบุเอาไว้ว่า ภายในพีระมิดได้มีร่องรอยของท่อน้ำ นั่นเป็นสิ่งที่สามารถตั้งข้อสังเกตได้อย่างชัดเจนว่า ในการสร้างพีระมิดนอกจากจะเป็นเรื่องของการใช้กำลงคนจำนวนมากแล้ว การสร้างพีระมิดเองจะต้องสร้างให้อยู่บริเวณกลางแม่น้ำ มีการสร้างเส้นทางในการลำเลียงน้ำเพื่อให้น้ำดังกล่าวสร้างแรงดันในการส่งผ่านหินกว่า 2 ล้านก้อนเพื่อนำเอาไปใช้ในการสร้างพีระมิดขึ้นมานั่นเอง จากการสันนิษฐานในหลักฐานดังกล่าวเชื่อว่า ก้อนหินที่ถูกส่งมาจากเหมืองหินที่อยู่ห่างออกไปคนงานจะใช้วัสดุในสมัยก่อนอย่างหนังแกะและเงื่อนมาผูกต่อกันเพื่อให้ได้แพออกมา แล้วก็ค่อยนำหินที่จะขนย้ายผูกเอาไว้กับแพจากแล้วก็ค่อยๆ ปล่อยให้แพดังกล่าวไหลเอาหินผ่านเข้าไปในพีระมิด ด้วยการอัดอากาศเข้าไปในหนังแกะ ก็จะทำให้สิ่งนี้สามารถลอยน้ำอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะจมลงไปสู่ด้านล่าง
ส่วนเรื่องของระดับน้ำคงงานในเหมืองก็จะใช้การประเมินระดับน้ำและเครื่องมือในสมัยนั้นทำการประเมินว่าสามารถที่จะลอยผ่านไปได้หรือไม่เพื่อเปลี่ยนแปลงขนาดของหินให้มีความเท่าเทียมกัน เมื่อพวกเขาได้ทำกรเปลี่ยนลักษณะของหินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะใช้แพที่ทำจากหนังแกะขนส่งหินมายังพีระมิด ถือว่าเป็นเทคนิคที่ค่อนข้างล้ำสมัยและเป็นวิธีการที่ชาญฉลาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากใช้น้ำเป็นตัวกลางสำคัญสำหรับการลำเลียงหินจำนวนมากเพื่อลดปริมาณการใช้แรงงานคน เนื่องจากน้ำจะมีแรงดันจำนวนมหาศาลเพียงพอในการที่จะดันหินให้ขึ้นไปยังจุดที่อยู่สูงๆ
การนำอุปกรณ์มาช่วยทำการพยุงวัตถุที่มีน้ำหนักให้สามารถลอยอยู่บนน้ำได้ก็จะทำให้สามารพยุงในการขนส่งวัสดุต่างๆ ได้ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นทั้ง 4 ด้านของพีระมิดจึงมีท่อน้ำที่ใช้ในการขนส่งหินอยู่ คนงานที่อยู่ในพีระมิดเพียงแค่ประมาณการตำแหน่งให้พอดีจากนั้นก็ทำการแกะหินออกก็จะทำให้ประหยัดเวลาในการขนย้ายได้อีกหลายเท่าตัว รอยท่อน้ำจึงถูกสร้างให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ตามขนาดของพีระมิด โดยที่ทุกชั้นจะกำหนดมุมลาดเอียงเอาไว้ที่ 53 องศา และเมื่อทำการสร้างพีระมิดเสร็จสิ้นก็เพียงแค่ทำการระบายน้ำออกไปให้หมดเท่านั้นเอง
